โฟลิค (Folic acid) : คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ใครควรกินเสริมบ้าง ?
โฟลิค (Folic acid)
Folic acid / Folate / Vitamin B9
Overview
โฟเลท หรือ กรดโฟลิค เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วิตามิน B9 เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง สามารถละลายน้ำได้ โฟลิคพบในอาหารเช่น ผักใบเขียว เช่น ผักโขม บร็อคโคลี่ ผักกาดหอม หรือ กล้วย ถั่ว เห็ด เนื้อสัตว์
Benefits
โฟลิค ช่วยอย่างไร ?
โฟลิคมีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ต่างๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ระบบประสาท ช่วยในการสร้าง DNA
โฟลิค & โรคต่างๆ
โฟลิคมีประโยชน์กับใครบ้าง ?
- ภาวะขาดโฟเลท
- บำรุงหญิงมีครรภ์ ป้องกันความผิดปกติเกี่ยวกับสมองและเส้นประสาทของทารกในครรภ์ (Neural Tube Defects) พบว่าการกินโฟลิคในช่วงก่อน และขณะตั้งครรภ์สามารถลดความเสี่ยงที่ทารกจะมีความผิดปกตินี้ได้
- โรคไต พบว่าการกินโฟลิคเสริมช่วยชะลอการเสื่อมของไตได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดโฮโมซิสเทอีน ซึ่งอาจสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากผู้ป่วยโรคไตมักมีค่าโฮโมซิสเทอีนสูง
- ภาวะโฮโมซิสเทอีนในเลือดสูง พบว่าโฮโมซิสเทอีนสูงสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง การกินโฟลิคร่วมกับวิตามินบี12 ช่วยลดโฮโมซิสเทอีนลงได้ 20-30% ในผู้ที่มีค่าโฮโมซิสเทอีนปกติ หรือ สูงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ยังอาจช่วยในภาวะต่างๆต่อไปนี้
- ความดันโลหิตสูง พบว่าการกินโฟลิคติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือนครึ่ง ช่วยลดความดันโลหิตได้ อย่างไรก็ตามในคนที่กินยาความดันอยู่แล้วไม่พบว่าช่วยลดความดันมากขึ้นแต่อย่างใด
- จอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (age-related macular degeneration) พบว่าการกินวิตามินบี12 ร่วมกับโฟลิค และวิตามินบี6 และวิตามินบีอื่นๆ อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ได้
Safety
โฟลิคค่อนข้างปลอดภัย คนทั่วไปไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใดเมื่อกินขนาดไม่เกิน 1 mg
หากกินในขนาดสูงเกินติดต่อเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ผื่น การนอนหลับผิดปกติ กระวนกระวาย สับสน ตื่นตัวมากกว่าปกติได้
บางกลุ่มมีความกังวลว่าการกินโฟลิคขนาดสูง 0.8-1.2 mg ต่อวัน โดยกินต่อเนื่องเป็นเวลานานในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ อาจทำให้มีความเสี่ยงหัวใจวายมากขึ้น และบางงานวิจัยพบว่าการกินขนาดสูงเป็นเวลานานๆนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งต่างๆ เช่นปอดและต่อมลูกหมาก
อาจต้องระมัดระวังการกินโฟลิคในผู้ที่มีภาวะต่างๆต่อไปนี้
- หลังการทำหัตถการที่ช่วยขยายหลอดเลือด เช่น บอลลูนหัวใจ การฉีด หรือกิน โฟลิคร่วมกับวิตามินบี6 วิตามินบี12 อาจทำให้หลอดเลือดที่ตีบเป็นมากขึ้นได้ อย่างไรก็ตามมีบางงานวิจัยเช่นกันที่ได้ผลตรงกันข้าม คือพบว่าช่วยลดการเป็นหลอดเลือดตีบซ้ำหลังการทำบอลลูนหัวใจ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน หากได้รับการทำหัตถการดังกล่าว
- มะเร็ง บางงานวิจัยเ่บื้องต้นพบว่า การกินโฟลิคขนาดสูง 0.8-1 mg ต่อวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งต่างๆได้ จนกว่าจะมีการศึกษามากกว่านี้ ผู้ที่มีประวัติมะเร็งควรหลีกเลี่ยงการกินโฟลิคขนาดสูง
- โรคหัวใจ บางงานวิจัยเ่บื้องต้นพบว่า การกินโฟลิคร่วมกับวิตามินบี6 อาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นหัวใจล้มเหลวได้ในผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว
- ผู้ที่รับประทานยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ในการกินร่วมกับโฟลิค
- ยากันชัก Phenytoin (Dilantin), Fosphenytoin, Phenobarbital, Primidone
- Methotrexate
- ยาฆ่าพยาธิ Pyrimethamine
เนื่องจากโฟลิคอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาต่างๆเหล่านี้ลดลง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่า การให้โฟลิคร่วมไปกับยาต่างๆดังกล่าวนี้ ช่วยลดผลข้างเคียงจากยาเหล่านี้ได้ เพราะยาเหล่านี้มักทำให้ระดับโฟลิคลดลง การให้โฟลิคเสริมมักมีประโยชน์มากกว่าโทษ
How to Choose / Use
กลุ่มบุคคล | ขนาดที่แนะนำต่อวัน (RDA: Recommended Daily Allowance) |
ผู้ชาย | 0.4 mg |
ผู้หญิง | 0.4-0.8 mg |
หญิงตั้งครรภ์ | 0.6 mg |
หญิงให้นมบุตร | 0.5 mg |
- หญิงช่วงก่อนตั้งครรภ์ (ที่พร้อมจะมีบุตร) 0.4 mg ต่อวัน
- ผู้ที่ขาดโฟลิค 0.4-1 mg ต่อวัน
- ภาวะโฮโมซิสเทอีนในเลือดสูง 0.8-1 mg
Reference:
- Lewis DP, Van Dyke DC, Willhite LA, Stumbo PJ, Berg MJ. Phenytoin-folic acid interaction. Ann Pharmacother. 1995 Jul-Aug;29(7-8):726-35.
- http://www.medscape.com/viewarticle/783438
- http://www.medscape.org/viewarticle/452026