อึ้งคี้ หรือ ปักคี้ (Astragalus) : สมุนไพรจีนบำรุงกำลัง มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

อึ้งคี้ หรือ ปักคี้ (Astragalus) : สมุนไพรจีนบำรุงกำลัง มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
0.0
User Rating 0 (0 votes)
Sending
0 (0 reviews)

อึ้งคี้, ปักคี้, ปักอึ้งคี้, หวงฉี
(Astragalus, Huang Qi)


Overview

อึ้งคี้ ปักคี้ หรือ หวงฉี คือ สมุนไพรชนิดหนึ่งที่แพทย์จีนใช้มาเป็นพันปี ปักอึ้งคี้ คือ อึ้งคี้ที่มีคุณภาพดีของจีนซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากทางเหนือ โดยทั่วไปจะใช้ส่วนรากมาเป็นยาสมุนไพร อึ้งคี้ เป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่คนไทยมักเรียกกัน มีการใช้กันมากในหลายอาการ เช่น เป็นหวัด ภูมิแพ้ ปวดเมื่อยร่างกาย เหนื่อยง่าย โรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โลหิตจาง โรคติดเชื้อ HIV, AIDS หรือ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ในการปกป้องตับ ต่อต้านแบคทีเรีย ไวรัส บางคนนำไปใช้ในโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด

อึ้งคี้มักใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ หรือเป็นตำรับยารับประทาน และยังมีการนำไปใช้ทาผิวเพื่อเพิ่มเลือดไหลเวียนในบริเวณที่ต้องการเร่งให้แผลหายไว


Benefits

อึ้งคี้ช่วยอย่างไร ?

  • ในรากของอึ้งคี้ประกอบด้วยสารเช่น โคลีน (Choline), ฟลาวานอยด์ (Flavanoids), กรดอะมิโน (Amino acids), สารสื่อประสาท (GABA), Beta sitosterol, Oils
  • พบว่าอึ้งคี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยในการทำงานของต่อมหมวกไต การย่อยอาหาร และ ระบบเมตาบอลิซึม จึงมักนำไปใช้ในอาการอ่อนเพลีย อ่อนล้า เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
  • อึ้งคี้ช่วยป้องกันเซลล์ของเราจากการถูกทำลายของสารอนุมูลอิสระ
  • ในการแพทย์ชะลอวัยของสหรัฐอเมริกา (Anti-aging Medicine) พบว่าอึ้งคี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ทีโลเมอเรส (Telomerase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยเพิ่มความยาวของส่วนทีโลเมียร์ (Telomere) ในโครโมโซมของเรา เนื่องจากพบว่า คนที่อายุมากขึ้น จะมีโครโมโซมส่วนนี้สั้นลงเรื่อยๆ โดยในคนที่อายุเท่ากัน คนที่โครโมโซมส่วนทีโลเมียร์ยาวจะดูเด็ก และอ่อนวัย กว่าคนทั่วไป ในวงการวิจัยพบว่า อึ้งคี้ เป็นตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดที่ช่วยเพิ่มความยาวของทีโลเมียร์ และช่วยในการสร้างส่วนปลายของ DNA ใหม่อีกครั้ง
  • ศาสตร์การแพทย์จีน มีการใช้อึ้งคี้มาเป็นพันปี ในการ ช่วยบำรุงเพิ่มพลังงานไหลเวียนให้แก่ร่างกาย (บำรุงชี่ หรือ ลมปราณนั่นเองครับ)

อึ้งคี้ & โรคต่างๆ

อึ้งคี้อาจมีประโยชน์ในโรคต่างๆดังนี้

  • เบาหวาน พบว่าการกินตำรับยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ หรือ ให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือด สามารถช่วยลดระดับน้ำตาล และ ระดับอินซูลิน ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 (ชนิดที่พบทั่วไปในผู้ใหญ่) ได้
  • ลดผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด มีบางงานวิจัยพบว่า การกินตำรับยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ หรือ ให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือด อาจช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และ ช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการกดการทำงานของไขกระดูก เช่น เม็ดเลือดต่ำกว่าปกติได้
  • ภูมิแพ้ พบว่าการกินสารสกัดรากอึ้งคี้เป็นเวลา 3-6 สัปดาห์ ช่วยลดอาการน้ำมูกไหล จาม คันจมูก ในผู้ป่วยภูมิแพ้ได้
  • เหนื่อยอ่อนเพลีย พบว่าการกินอึ้งคี้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ช่วยลดอาการเหนื่อยอ่อนเพลียได้
  • โลหิตจาง พบว่าการกินอึ้งคี้เดี่ยวๆ หรือร่วมกับสมุนไพรอื่น สามารถทำให้เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นได้
  • ความสามารถในการกีฬา พบว่าการกินตำรับยาที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ (Huangqi Jianzhong Tang) เป็นเวลา 2 เดือน สามารถเพิ่มขีดจำกัดความสามารถในการกีฬา ในนักกีฬารุ่นเยาว์ได้
  • ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ พบว่าการกินตำรับยาจีนที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ อาจช่วยทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติมากขึ้นได้
  • อาการเจ็บหน้าอก พบว่าการกินอึ้งคี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สามารถช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้นได้ มีการศึกษาว่าการให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือดสามารถลดความรุนแรง และ ความถี่ของการเจ็บหน้าอก และ ช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น
  • โรคหัวใจ พบว่า การกินอึ้งคี้ หรือ ให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือดเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ สามารถช่วยให้อาการของน้ำท่วมปอด (หัวใจล้มเหลว) ดีขึ้นได้
  • โรคไต พบว่าการกินสมุนไพรที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ และ รากไม้โกโบ หรือ การให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือด ช่วยทำให้ค่าการทำงานของไตดีขึ้นได้ ในผู้ที่เป็นโรคไตที่เกิดจากเบาหวาน นอกจากนี้โรคไตอีกหลายชนิด ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
  • สูญเสียการได้ยิน หูดับ พบว่าการให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือดเป็นเวลา 10 วันช่วยทำให้การได้ยินดีขึ้น ในผู้ป่วยที่หูดับ (อาการเป็นทันที) หรือ สูญเสียการได้ยินจากเสียงที่ดังมาก
  • ไวรัสตับอักเสบบี พบว่าการกินตำรับสมุนไพรที่ประกอบด้วยอึ้งคี้เป็นเวลาประมาณ 10 เดือน สามารถทำให้เชื้อไวรัสในร่างกายสงบลงได้ (inactive)
  • โรคติดเชื้อ HIV, AIDS ผลการทดลองยังสรุปไม่ตรงกันว่าช่วยได้หรือไม่ การกินสมุนไพรบางตำรับที่มีอึ้งคี้อยู่ด้วยเป็นเวลา 4 เดือน พบว่าช่วยทำให้อาการและ การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น แต่ในบางตำรับที่แตกต่างออกไปพบว่าไม่สามารถช่วยได้
  • ลดการติดเชื้อในผู้ป่วยโรคไต (nephrotic syndrome) งานวิจัยเบื้องต้นพบว่าการกินอึ้งคี้ในผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคดังกล่าว ช่วยให้อัตราการติดเชื้อโรคต่างๆลดลง
  • โรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE (โรคพุ่มพวง) พบว่าการให้อึ้งคี้ทางเส้นเลือดเดือนละ 12 วัน เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยลดอาการ และการติดเชื้อในผู้ป่วย SLE ได้
  • มะเร็งปอด พบว่าการกินสมุนไพรที่ประกอบด้วยอึ้งคี้ ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดชนิดที่มีแพลตินัม (Platinum-based chemotherapy) ที่ใช้ในโรคมะเร็งปอดแบบ Non-small-cell lung cancer สามารถลดอัตราการเสียชีวิตภายในปีแรกหลังได้รับยาเคมีบำบัดได้ดีกว่าการให้ยาเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว

ในบางภาวะเหล่านี้ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปครับ


อึ้งคี้


Safety

  • อึ้งคี้อาจจะปลอดภัยในผู้ใหญ่ทั่วไป เมื่อใช้อย่างเหมาะสม โดยการกิน ขนาดไม่เกิน 30 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน หรือ 40 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน หรือไม่เกิน 80 กรัม ทางหลอดเลือดดำ เป็นเวลา 1 เดือน
  • ผลข้างเคียงยังไม่พบแน่ชัด
  • Astragalus มีหลายพันธุ์ มีบางสายพันธุ์ที่มีพิษ เช่น Astragalus lentiginosus, Astragalus mollissimus อย่างไรก็ตาม พันธุ์ที่ใช้มาเป็นสมุนไพร หรือ อาหารเสริม ไม่ใช้พันธุ์ดังกล่าว โดยพันธุ์ส่วนใหญ่ที่ใช้กัน คือ Astragalus membranaceus (อึ้งคี้)
  • อาจต้องระมัดระวังการใช้ในผู้ป่วยดังนี้
    • โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น SLE, โรคข้อรูมาตอยด์ เนื่องจากอึ้งคี้อาจทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานมากขึ้นได้
    • ผู้ที่กินยาที่มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน เช่น ยารักษามะเร็งต่างๆ ยาสเตอรอยด์ เนื่องจากอึ้งคี้อาจทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานมากขึ้น ทำให้ยาได้ผลน้อยลงได้
    • ผู้ที่ใช้ยาลิเทียม (Lithium) เนื่องจากอึ้งคี้อาจมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ การกินอึ้งคี้อาจทำให้ขับลิเทียมออกได้น้อยลง ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายจากยาลิเทียมได้มากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้

How to Choose / Use

  • เพื่อให้ใช้อึ้งคี้ได้ผลดี แนะนำให้หยุดทาน 2 สัปดาห์ หลังจากการกินติดต่อกันทุก 3 เดือน

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

Sending