วิตามินบี6 (ไพริดอกซีน) : สำคัญอย่างไร ? ใครเสี่ยงขาดบ้าง ?
0.0
User Rating
( votes)
0
(0 reviews)
วิตามินบี6 / ไพริดอกซีน
vitamin B6 / pyridoxine
Overview
- วิตามินบี6 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำเหมือนวิตามินบีตัวอื่นๆ
- มีส่วนสำคัญในการทำงานของเอนไซม์ต่างๆมากมายในร่างกาย
- เมื่ออายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการใช้วิตามินบี6 ของร่างกายเราจะลดลง ดังนั้นเราจึงต้องการวิตามินบี6 มากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
อาหารอะไรบ้าง ที่มีวิตามินบี6 สูง ?
- ยีสต์
- ตับ
- เนื้อสัตว์ ปลาทูน่า ปลาแซลมอน
- ไข่
- ถั่ว ธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน ถั่ววอลนัท
- ผัก
เมื่อขาดวิตามินบี6 จะมีอาการอะไรบ้าง ?
- เหน็บชา ชายิบๆ
- แผลในปาก หรือ รอบๆริมฝีปาก
- อ่อนเพลีย อ่อนแรง
- นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
- ซึมเศร้า
ใครบ้าง ที่เสี่ยงขาดวิตามินบี 6 ?
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- คนที่ออกกำลังกายหนัก
- กินยาคุมกำเนิด หรือ ฮอร์โมนทดแทน (estrogen) เป็นประจำ
- กินยาเหล่านี้เป็นประจำ
- ยาขับปัสสาวะ หรือ ยาลดความดัน เช่น Hydrochlorothiazide (HCTZ), Hydralazine
- ยาโรคหอบหืด Theophylline
- ยาฆ่าเชื้อ เช่น Doxycycline, Tetracyclin Penicillins, ยารักษาวัณโรค Isoniazid, ยาฆ่าเชื้อ กลุ่ม Macrolides
- ยาโรคซึมเศร้า
Benefits
วิตามินบี 6 ช่วยอย่างไร ?
วิตามินบี6 มีส่วนสำคัญในกระบวนการเผาผลาญแป้ง ไขมัน และโปรตีน เพื่อสลายเป็นพลังงาน กระบวนการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโต และพัฒนาการของสมอง ระบบประสาท ผิวหนังที่แข็งแรงอีกด้วย
วิตามินบี6 และโรคต่างๆ
วิตามินบี6 อาจช่วยในภาวะต่างๆต่อไปนี้
- ภาวะขาดวิตามินบี6
พบว่าการกินวิตามินบี6 เสริมช่วยลดอาการที่เกิดจากภาวะนี้ได้ - ซีด เลือดจาง
พบว่าการกินวิตามินบี6 เสริมในคนที่เป็นโรคเลือดจางแต่กำเนิดชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า sideroblastic anemia สามารถช่วยภาวะนี้ให้ดีขึ้นได้ - ภาวะโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) ในเลือดสูง
(บางงานวิจัยพบว่าค่าที่สูงนี้อาจสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดต่างๆ) พบว่าการกินวิตามินบี 6 เดี่ยวๆ หรือร่วมกับโฟลิค และ วิตามินบี12 อาจช่วยให้ค่าโฮโมซิสเทอีนต่ำลงได้ - จุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม (Macular degeneration)
บางงานวิจัยพบว่า การกินวิตามินบี6 ร่วมกับโฟลิค และวิตามินบี12 เสริม อาจช่วยป้องกันโรคดังกล่าวได้ - ความดันโลหิตสูง
บางงานวิจัยพบว่าวิตามินบี6 อาจช่วยให้ความดันลดลงได้ - อาการแพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์
พบว่าการให้วิตามินบี 6 เสริมในคนที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากสามารถลดอาการดังกล่าวได้ สมาคมสูตินรีเวชของสหรัฐอเมริกา (The American College of Obstetrics and Gynecology) ใช้วิตามินบี6 เป็นยาเบื้องต้นในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง - อาการไม่สบายตัวระหว่างมีประจำเดือน (Premenstrual syndrome)
บางงานวิจัยพบว่า วิตามินบี6 ช่วยลดอาการระหว่างมีประจำเดือน เช่น ตึงคัดเต้านมได้ โดยควรใช้ขนาดต่ำที่สุดที่ได้ผล เนื่องจากพบว่าขนาดที่สูงขึ้นอาจทำให้มีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ให้ประโยชน์มากขึ้น
Safety
การใช้วิตามินบี6 ปลอดภัยไหม ?
- โดยทั่วไปการใช้วิตามินบี6 ขนาดปกติค่อนข้างปลอดภัย
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ ชา ง่วงนอนบ่อย
- ขนาดที่สูงเกินไป เช่น มากกว่า 500 mg ต่อวัน อาจทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบได้
- การกินวิตามินบีตัวใดตัวหนึ่งปริมาณมากๆ อาจทำให้วิตามินบีตัวอื่นๆในร่างกายไม่สมดุลได้
ยาอะไรบ้าง ที่ควรระมัดระวังในการกินร่วมกับวิตามินบี 6 ?
- ยาโรคหัวใจ amiodarone (cordarone) ยานี้ทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น การกินยานี้ร่วมกับวิตามินบี6 อาจทำให้ผิวไหม้ หรือผื่นง่ายขึ้นได้เวลาโดนแดด ควรทาครีมกันแดด หรือ สวมเสื้อผ้ามิดชิดเวลาต้องออกแดด
- ยากันชัก Phenobarbital, Phenytoin (Dilantin) วิตามินบี6 อาจทำให้ร่างกายสลายยานี้เร็วขึ้น อาจทำให้ประสิทธิภาพของยากันชักลดลงได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานร่วมกัน โดยเฉพาะวิตามินบี6 ขนาดสูงๆ
- ยาโรคพาร์กินสัน levodopa วิตามินบี6 อาจทำให้ร่างกายสลายยานี้เร็วขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานร่วมกัน
How to Choose / Use
ควรใช้วิตามินบี6 ขนาดเท่าไร ?
- ภาวะขาดวิตามินบี6 : ใช้ขนาด 2.5-25 mg ต่อวัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังจากนั้น 1.5-2.5 mg ต่อวัน
- ภาวะขาดวิตามินบี6 ในหญิงที่กินยาคุมเป็นประจำ : 25-30 mg ต่อวัน
- อาการไม่สบายตัวระหว่างมีประจำเดือน : 50-100 mg ต่อวัน พบว่าขนาดที่สูงกว่า 100mg ไม่มีประโยชน์มากขึ้น และยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมากขึ้น
- ป้องกันจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม (Macular degeneration) : 50 mg ต่อวัน ร่วมกับ วิตามินบี12 ขนาด 1000 mcg และ โฟลิค 2500 mcg
- อาการแพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ : 10-25 mg วันละ 3-4 ครั้ง หรือ 75 mg แบบค่อยๆปลดปล่อยตัวยาออกมา (sustained-release) ร่วมกับวิตามินบี12 ขนาด 12 mcg, โฟลิค 1 mg และ แคลเซียม 200 mg (PremesisRx)
- สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ขาดวิตามิน ขนาดที่แนะนำต่อวันเป็นดังนี้ครับ
อายุ | ปริมาณวิตามินบี6 ที่แนะนำต่อวัน (RDAs: Recommended Dietary Allowances) |
เด็กแรกเกิด 0-6 เดือน | 0.1 mg |
7-12 เดือน | 0.3 mg |
1-3 ปี | 0.5 mg |
4-8 ปี | 0.6 mg |
9-13 ปี | 1 mg |
14-50 ปี (ชาย) | 1.3 mg |
50 ปีขึ้นไป (ชาย) | 1.7 mg |
14-18 ปี (หญิง) | 1.2 mg |
19-50 ปี (หญิง) | 1.3 mg |
50 ปีขึ้นไป (หญิง) | 1.5 mg |
ตั้งครรภ์ | 1.9 mg |
ให้นมบุตร | 2 mg |