เคล็ดลับอายุยืน ของคนชาว Blue zone
วันนี้ผมเอาเรื่องที่น่าสนใจในหนังสือเรื่อง ‘The Blue Zones Solution’ มาเล่าให้ฟังกันต่อนะฮะ ทางผู้เขียน Dan Buettner ได้สรุป 9 ข้อที่ได้จากการไปดินแดน ‘Blue zone’ ที่เป็นแหล่งของคนอายุยืนทั้งหลายมีเหมือนๆกันมาได้ดังนี้ครับ
- Move naturally – ขยับตัวบ่อยๆ อย่างเป็นธรรมชาติ หมู่บ้านที่อายุยืนที่สุดของโลกทั้งหลายไม่มีใครเล่นกล้าม วิ่งมาราธอน หรือเข้าฟิตเนส แต่พวกเขามักจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขามีการขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น ปลูกต้นไม้ ไม่ได้มีเครื่องมือทุ่นแรงต่างๆในการทำสวน เวลาที่จะไปไหนมาไหน เช่นไปหาเพื่อน ไปทำงาน ไปโบสถ์ ก็มักจะใช้การเดินเท่านั้น
- Purpose – เป้าหมายในชีวิต
ชาวโอกินาว่าของญี่ปุ่นมี ‘อิคิไก’ ซึ่งแปลตรงตัวว่า ‘เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า’ งานวิจัยพบว่า คนที่รู้ว่าตัวเองมีเป้าหมายอะไร มีอายุขัยเฉลี่ยยาวนานกว่าคนที่ไม่มีเ้ป้าหมายถึง 7 ปีเลยทีเดียว
- Downshift – ลดความเครียด
แม้แต่คนที่อยู่ใน blue zone หรือแหล่งที่มีคนอายุยืนเยอะๆ ก็มีความเครียดเหมือนกัน แต่พวกเขามีวิธีจัดการกับความเครียดนั้น เช่น ชาวโอกินาว่าจะมีช่วงเวลาที่ระลึกถึงบรรพบุรุษของเขา ชาว Adventists มีการภาวนา (pray) ชาว Ikarians มีการนอนหลับระหว่างวัน (nap)
- Rule of 80%
ชาวโอกินาว่ามีประเพณี ‘hara hachi bu’ ซึ่งเป็นปรัชญาขงจื็อที่มีมากว่า 2,500 ปี ที่ชาวโอกินาว่าจะกล่าวก่อนกินอาหาร ซึ่งช่วยเตือนให้เขากินอาหารแค่พอรู้สึกอิ่มแค่ 80% ชาวบลูโซนทั้งหลายมักจะกินมื้อสุดท้ายในตอนบ่ายแก่ๆ (late afternoon) หรือ ตอนเย็น (early evening) โดยเป็นมื้อที่เล็กที่สุด และพวกเขาไม่ได้กินอะไรอีกเลยหลังจากนั้น
- Plant-based – กินพืชผักเป็นหลัก
ถั่ว เช่นถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วปากอ้า เลนทิล มักจะเป็นอาหารหลักสำคัญในชาวบลูโซน เนื้อสัตว์อย่างเช่นหมู ส่วนใหญ่จะกินกันแค่ 5 ครั้งต่อสัปดาห์
- Wine @ 5 – ไวน์ตอน 5 โมงเย็น
ชาวบลูโซนส่วนใหญ่มักจะกินแอลกอฮอล์เล็กน้อยเป็นประจำ พบว่า คนที่กินแอลกอฮอล์เล็กน้อยอายุยืนกว่าคนที่ไม่ดื่มเลย โดยทริคคือกินไม่เกิน 1-2 แก้วต่อวันกับเพื่อนๆ ครอบครัว และกินพร้อมๆกับอาหาร
- Right tribe – ชนเผ่าที่ถูกต้อง
คนที่อายุยืนส่วนใหญ่เกิดมาในสังคมที่เอื้อต่อพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ อย่างชาวโอกินาว่ามีประเพณี moais ซึ่งก็คือกลุ่มคน 5 คนที่จะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดชีวิต งานวิจัยพบว่า การสูบบุหรี่ ความอ้วน ความสุข หรือแม้แต่ความเหงา สามารถติดต่อกันได้ ดังนั้นการมีเครือข่ายคนรอบตัวที่พร้อมจะช่วยเหลือกันทุกเรื่อง รวมถึงมีพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้สุขภาพดีก็ติดต่อกันได้เช่นกัน
- Community – ชุมชน
National Geographic ได้ไปสำรวจทั้งหมด 263 ชุมชนคนอายุยืนที่สุดของโลก พบว่ามีเพียง 5 ชุมชนที่ไม่ได้เป็น Faith-based community หรือมีศรัทธาบางอย่างร่วมกัน มีงานวิจัยพบว่า การเข้าร่วม faith-based service ไม่ว่าจะเป็นการไปโบสถ์ เข้าวัด หรืออื่นๆที่เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันด้วยความเชื่อและศรัทธาบางอย่าง 4 ครั้งต่อเดือน หรือประมาณสัปดาห์ละครั้ง ช่วยเพิ่มอายุขัยได้ถึง 4-14 ปีเลยทีเดียว
- Love ones first – ให้ความรักกับคนอื่นก่อน
ชาวอายุยืนทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จให้ความสำคัญกับครอบครัวมาเป็นอันดับแรก เขามีคุณปู่ย่าตายายอยู่บ้านเดียวกัน หรือละแวกใกล้ๆกัน ซึ่งพบว่าช่วยลดการป่วย และอัตราการตายของเด็กๆในบ้านด้วย นอกจากนี้การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ (commit to a life partner) จะช่วยเพิ่มอายุขัยไปอีกถึง 3 ปี
สรุปแล้ว
ทางผู้เขียน Dan Buettner พบว่าในทุกๆบลูโซนที่ทาง National Geographic ไปสำรวจ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ การที่มีสุขภาพดีมาจากการร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว ครอบครัว และชุมชนที่จะทำให้เราสามารถอยู่ในพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพไปแบบไม่ต้องพยายามนั่นเอง ในบทท้ายๆ ผู้เขียนกับทีมงานได้ทดลองสร้างชุมชน Blue zone ที่อเมริกา ขึ้นดูด้วย ชื่อว่า ‘Making an American Blue Zone’ เขาทำกันยังไง ได้ผลยังไงบ้าง รอติดตามกันๆโพสต์ต่อๆไปคร้าบบ
ใครไม่อยากพลาดความรู้สนุกๆและมีประโยชน์แบบนี้ อย่าลืมเข้าไปกดไลค์เพจเฟซบุ๊ค แล้วเลือกเห็นโพสต์ก่อนให้ด้วยนะฮับบบ เราจะได้เจอกันบ่อยๆฮะ หรือมาเป็นเพื่อนกันได้ที่ lineID: @GinnGinn หรือ IG: theginnginn สามารถคลิกตามลิงค์ไปได้เลยคร้าบบบบ